Bookmark and Share

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

Day 9 Matterhorn - Basel - Zurich


Day 9 Matterhorn - Basel - Zurich

วันที่ 9 ของทริปสวิสและวันที่ 7 ของการใช้ Swiss Pass แผนวันนี้คือจะขึ้นยอดเขา Gornergrat เพื่อชม Matterhorn หรือ ยอดเขาพีระมิดแห่งสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนช่วงบ่ายจะออกเดินทางไปเที่ยวเมือง Basel ก่อนจะกลับไปยัง Zurich

Zermatt
สวัสดียามเช้ากันด้วยรูปสวยๆ ของยอดเขา Matterhorn จุดนี้สามารถมองได้จากบริเวณริมคลอง เดินออกมาจากโรงแรมเพียง 3 นาที เวลาประมาณ 6 โมงกว่าๆ ถ้าเช้ากว่านี้ก็จะมีโอกาสเห็นเป็น Matterhorn สีทองกันเลยทีเดียว

Matterhorn
ท้องฟ้าสดใส หลังจากที่มีฝนตกลงมาเล็กน้อยเมื่อวานนี้ เข้าจุด Start เริ่มต้นไปชม Matterhorn กัน

Zermatt
มาดูแผนที่คร่าวๆ กันก่อน เราจะนั่งรถไฟ Gornergrat Bahn จากสถานี Zermatt GGB ไต่เขาชมเมืองมาเรื่อยๆ จากนั้น รถไฟจะแวะจอดที่ 4 สถานี คือ Rillelalp, Riffelberg, Rotenboden และ Gornergrat GGB

Matterhorn
เที่ยวแรกที่ออกคือ 6.50 น.

Matterhorn
มาแต่เช้า คนยังไม่เยอะ แวะซื้อตั๋วกันก่อน สำหรับราคาขึ้น Gornergrat นั้น สามารถใช้ Swiss Pass เป็นส่วนลดได้เหลือ 37 CF ถ้าขึ้นหลัง 17.00 น. จะลดเหลือ 33 CF

Matterhorn Swiss Pass
ได้มาแล้ว ตั๋วพร้อมแผนที่ ตั๋วนี้ต้องเก็บไว้ให้ดีๆ เพราะเวลาเราแวะตามสถานีต่างๆ ต้องใช้แปะเข้าออกตลอด เพื่อความปลอดภัย จะได้รู้ว่าไม่มีใครติดเขาอยู่ไม่ได้กลับมาลง

Zermatt map
แผนที่ Gornergrat Bahn

Matterhorn
ยอดเขา Gornergrat ความสูง 3,089 เมตร หรือ ประมาณหนึ่งหมื่นฟุต

Gornergrat
ใกล้ถึงเวลารถออกก็แปะบัตรเข้าไปรอด้านในกัน

Matterhorn
รถไฟ Gornergrat Bahn พาไต่เขาสูงไปชมวิวสวยๆ ของ Matterhorn กัน

Zermatt
ขึ้นเขากันมาซักพักจะได้เห็นวิวตัวเมือง Zermatt อยู่ด้านล่าง

Zermatt
เลี้ยวลดคดเคี้ยวไปตามซอกเขาด้านหลัง ตรงสถานี Riffelalp

Matterhorn
จากนั้นก็จะมาจอดแวะสถานี Riffelberg สถานีนี้ ถ้าใครมาเที่ยวช่วงเดือนสิงหาคมของที่นี่ ต้องแวะกันเลย เพราะจะสามารถเห็น Matterhorn สะท้อนน้ำในทะเลสาบ Rifflesee หรือใครจะแวะที่สถานี Rotenboden ก็ได้ไม่ว่ากันเพราะสามารถเดินเชื่อมไปถึงกันได้

Matterhorn
จากนั้นไม่นาน ก็มาถึงสถานี Gornergrat ปลายทางที่ความสูง 10,132 feet

Matterhorn
จากนั้นก็เดินขึ้นเขาไปตามทาง หิมะตกลงมาหนาทีเดียว

Gornergrat
สามารถขึ้นไปชมวิวบนหอคอย หรือ ระเบียงด้านขวาของรูปได้

Matterhorn
เห็นหิมะหนาๆ อย่างนี้ แต่อากาศไม่หนาวนะจ้ะ แค่เย็นๆ เพราะแดดจัดมาก เพื่อนๆ อย่าลืมใส่แว่นตากันแดดด้วย เพราะแสงสะท้อนจากหิมะเข้าตาเราจ้ามาก ทำให้ตาพร่าได้

Zermatt
จากนั้นหันไปมองหา Matterhorn กันหน่อย ใช้เวลาซักนิด นางก็โผล่ออกมาให้เห็นกัน เพราะเมฆหมอกมากันเยอะจริง เสริมความรู้กันหน่อยนึง ยอดเขา Matterhorn นี้ เป็นหนึ่งในยอดเขาสูงแห่งเทือกเขา Alps มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 4,478 เมตร มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี

Gornergrat
ส่วนยอดเขาอื่นๆ ในเทือกเขา Alps นั้น ก็สามารถชมได้ที่นี่เช่นกัน เค้าจะมีป้ายบอกตำแหน่งต่างๆ ให้

Zermatt
หลังจากดื่มด่ำบรรยากาศกันพอสมควรแล้วก็ได้เวลากลับกัน ลงมาพื่นล่างระหว่างเดินกลับโรงแรมก็มีให้เห็นมาตลอดทาง สวยงามจริงๆ

Zermatt Hotel Review
จากนั้นก็กลับไปทานอาหารเช้าบุเฟเฟ่ต์โรงแรมฟรีกันต่อที่ห้องอาหาร โรงแรม Hotel Daniela
รีวิวบุฟเฟต์อาหารเช้า โรงแรม Hotel Daniela

Zermatt
เสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินทางต่อไปยังเมือง Basel โดยจะแวะเปลี่ยนขบวนรถไฟที่เมือง Visp และ Bern แล้วลงที่สถานี Basel SBB

Zermatt St Moritz
ออกจาก Zermatt ด้วยรถไฟสาย Glacier Express ที่จะวิ่งยาวไปจนถึงเมือง St.Moritz

Glacier Express
ใช้เวลาประมาณ 3 ชม. 20 นาทีก็มาถึงสถานีรถไฟ Basel SBB เอากระเป๋าเก็บ Locker กันก่อน

Basel
สถานีรถไฟ Basel SBB สถานีรถไฟแห่งเมือง Basel เมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของประเทศ รองจาก Zurich

Basel
แผนที่เมืองบาเซิล (Basel North)

Basel
แผนที่เมืองบาเซิล (Basel South)

แผนที่รถรางบาเซิล
ส่วนการเดินทางในเมืองบาเซิลนั้น ใช้รถรางเป็นหลัก แล้วก็ง่ายมากๆ เสียด้วย

Basel
เริ่มต้นจากหน้าสถานีนี่แหละ มีป้ายบอกหมดว่าสายไหนไปไหน

Basel
จุดแรกลุยกันเลย เริ่มด้วยสาย 8 สายหลักของเมืองตรงสุ่ใจกลางย่าน Marktplatz

Basel
รีวิว Rathaus ศาลาว่าการสีแดงสด สัญลักษณ์ของเมือง Basel

Basel
จบจากความงามแดงๆ เดินตามแผนที่ไป 5 นาทีเพื่อไปชมน้ำพุ Fischmarkt

Basel
น้ำพุแห่งนี้ สร้างในสไตล์โกธิค อยู่ตรงวงเวียนรถรางใกล้ๆ กับ Marktplatz ที่เห็นอยู่นั้นเป็นแบบจำลองที่นำมาตั้งไว้ ส่วนของจริงนั้น เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์เมืองบาเซิล

Basel
จากน้ำพุ Fischmarkt เดินไปตามถนนด้านขวาของ Coop

Basel
ตรงไปถนนประมาณ 5 นาทีจะมาถึง สะพาน Mittere Rhienbrucke สะพานข้ามแม่น้ำไรน์

Basel
สมัยก่อนที่สร้างในปี ค.ศ.1225 เป็นสะพานไม้แก่าแก่ (สังเกตว่าจะมีป้อมเดิมอยู่กลางสะพาน) ส่วนปัจจุบันมีการปรับปรุงใหม่โดยสร้างเป็นสะพานคอนกรีตเพื่อความแข็งแรง

Basel
แอบเห็นอะไรเว้บๆ ตรงประตูเหล็กดัดของป้อมกลางสะพาน มีการนำเอากุญแจมาล็อคเต็มไปหมด ทำเป็นแบบที่ N Seoul Tower ที่เกาหลีไปได้ 

Basel
เดินข้ามไปจนถึงอีกฝั่งจะเห็นรูปปั้น Helvetia นั่งยกขาทอดอารมณ์อยู่ริมน้ำ

Basel
นางคือใคร?? คำตอบก็คือ นางเป็นผู้หญิงเผ่าเฮลเวติโบราณ ซึงเป็นชนเผ่าที่เป็นบรรพบุรุษของชาวสวิตเซอร์แลนด์ในปัจจุบัน ตอนนี้ ถ้าใครมีเหรียญ 1 CF ให้หยิบขึ้นมาดูก็จะเห็น Helvetia เป็นสัญลักษณ์ประจำเหรียญด้วย

บาเซิล
จากบนสะพานก็จะสามารถชมวิวเมืองบาเซิลได้อีกด้วย

บาเซิล
จากนั้นให้นั่งรถรางสายอะไรก็ได้มาลงที่ Marktplatz แล้วเดินไปยังวงเวียนน้ำพุ Fischmarkt จากนั้นเดินขึ้นบันไดไป เดี๋ยวจะพาเดินชมเมือง ไปยังซุ้มประตู Spalentor

บาเซิล
เดินขึ้นบันไดชิดขวาผ่านโบสถ์เล็กๆ ขึ้นไป

บาเซิล
จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Nadelburg ตรงไปเรื่อยๆ จะทะลุถนนย่านร้านค้าของเมือง

บาเซิล
เลี้ยวขวาตรงสามแยก ร้านต้นไม้นี่เลย

บาเซิล
ซ้ายมือจะมีร้านขายโมเดลรถไฟสวิส ใครสนใจสามารถแวะเวียนเข้าไปดูได้

บาเซิล
เจอแยกใหญ่ให้เดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ ตามถนนใหญ่

Basel
จะเจอซุ้มประตู Spalentor ซุ้มประตูเมืองแห่ง Basel ที่รถรางสามารถวิ่งลอดได้ ด้านบนของประตูเป็นหอคอยทรงแหลม ปูด้วยกระเบื้องสีเขียวเหลืองลวดลายแบบโบราณ

Basel
ใกล้ๆ กับซุ้มประตูเมือง จะมีน้ำพุ นักเป่าปี่อยู่ ลวดลายสวยงามเเหมือนที่เมือง Bern

Basel
จากนั้นก็มาขึ้นรถรางสาย 3 ตรงกลางถนนใหญ่ที่เราเดินมากลับไปลงยังสถานี Barfusserplatz ใจกลางเมืองเพื่อเยี่ยมสถานที่อืนๆ ที่เหลือ

Basel
สถานีนี้เป็นสถานีใหญ่ อยู่ก่อนสถานี Marktplatz ที่เราเพิ่งลงไปเที่ยว Rathaus ตอนแรก

บาเซิล
เดินตามแผนที่ไปยังยอดโบสถ์สูงๆ ดูเก่าแก่โบราณนี่ ขึ้นบันไดเลี้ยวซ้ายไป จะพบกับ..

ิBasel
น้ำพุ Fasnachbrunnen น้ำพุรูปร่างแปลกประหลาด เหมือนใครเอาชิ้นส่วนจักรยาน กับ จักรเย็บผ้าสมัยก่อนมาคว่ำแล้วต่อสายยางยังไงยังงั้น

Basel
ด้วยความตาไม่ถึง เลยดูไม่ออกว่า น้ำพุแห่งนี้เป็นสุดยอดผลงานศิลปะของ ฌอง แตงก์ลี (Jean Tinguely) ที่สร้างจากสิ่งของเหลือใช้ เศษขยะต่างๆ นำมาประดับลานน้ำพุ ในลานพักผ่อนของชาวเมืองบาเซิล ความเป็นศิลปะของน้ำพุแห่งนี้ ดูกลมกลืนกับยุคปัจจุบัน ทั้งๆ ที่สร้างมาตั้งแต่ปี 1977 หรือว่า 40 กว่าปีมาแล้ว

บาเซิล
จากนั้นกลับทางเดิมมายังหน้าสถานีใหม่เพื่อตั้งต้นแล้วเดินตามถนน Streitgasse ขึ้นไป

บาเซิล
จะเจอย่านช้อปปิ้งหลักของเมือง ร้านค้ามากมาย เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวามีหมด แต่เราเลี้ยวเบี่ยงขวาเล็กน้อย

บาเซิล
จากนั้นเดินเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Munsterburg ตรงน้ำพุ

บาเซิล
ตรงขึ้นไปเรื่อยๆ จะพบกับวิหารหลักแห่งเมือง Basel หลังสีแดงๆ

Basel
Basel Munster (วิหารแห่งเมืองบาเซิล) สร้างมาตั้งแต่ปี 1019 ด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิคผสมกับโรมัน หลังจากนั้นไม่นานเกิดแผ่นดินไหว เลยมีการบูรณะซ่อมแซมกันใหญ่โตในปี 1356

Basel
ด้านหน้าซุ้มประตูก็ทำเป็นลวดลายจะเห็นได้ว่าได้รับอิทธิพลทางโรมันมาเต็มๆ

Basel
รูปปั้นทหารแทงหอกอันโด่งดังด้านซ้ายหน้าของวิหาร

Basel
ส่วนรูปปั้นด้านขวาเป็นรูปหญิงโบราณขี่ม้าอยู่

Zurich Hotel Revies
จบจากเมือง Basel แล้ว นั่งรถไฟไปยังเมือง Zurich เอากระเป๋าเข้าที่พักที่
โรงแรม Sorell Hotel Rutl โรงแรมหรูน่าพักในซูริค เดินทางสะดวกมาก 5 นาทีจาก Zurich HB

รีวิวโรงแรม Sorell Hotel Rutli

ร้านอาหารสวิส
จากนั้นก็จัดมื้อค่ำราคาประหยัดกันที่ Coop Take it ซื้อตอนเย็นลดราคา 50% อีกด้วยในเมนูสลัด
รีวิว Coop Take it