Bookmark and Share

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

Day 6 Fribourg - Lausanne


Day 6 Fribourg - Lausanne

วันที่ 6 ของทริป และวันที่ 4 ของการใช้ Swiss Pass ยังคงตั้งหลักอยู่ที่ Bern แต่จะออกเดินทางไปเที่ยวยังตะวันตกของสวิสที่เมือง Fribourg ในช่วงเช้าและ Lausanne ในช่วงบ่าย


จากเมืองหลวง Bern ไปยังเมือง Fribourg ใช้เวลาเพียง 21 นาทีเท่านั้น
แผนที่เดินชมเมือง Fribourg

เริ่มต้นจากหน้าสถานีรถบัส ซึ่งอยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟ Fribourg อีกทีนึง


หันหน้าออกจากสถานีแล้วเดินไปตามทางเรื่อยๆ

จะเจอตึกขวามือ เดินเข้าไปด้านล่างจะเป็น Tourist Information ใครอยากมาถามข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ก็ได้

จากนั้นมาเริ่มต้นเดินเที่ยวเมืองกันต่อ เดินข้ามถนนไปยังถนนหน้าโบสถ์ตามคนกางร่มสีฟ้าไปกันเลย
มือง Fribourg นี้ เป็นเมืองเล็กอยู่ระหว่างทางไป Lausanne สามารถแวะเที่ยวชมเมืองแห่งปราสาทได้ โดยใช้เวลาไม่นาน เดินตรงไปตามแผนที่เพื่อชมย่านเมืองเก่าของเมืองกัน วันนี้มีฝนตกลงมาเล็กน้อย ได้บรรยากาศเงียบเหงาไปอีกแบบนึง
น้ำพุของเมืองนี้จะดูเก่าแกกว่าทีเบิร์นหน่อย แล้วก็ไม่มีสีสันสดใส อารมณ์แบบปูนเปลือย
บรรยากาศเมืองเก่าตั้งแต่สมัยกลางยังมีให้เห็นได้ที่นี่ เมือง Fribourg นี้ เป็นเมืองกึ่งกลางที่คั่นด้วยแม่น้ำซารีน โดย 2 ฝั่งแม่น้ำนี้จะพูดกันคนละภาษา คือ สวิสฝรั่งเศสและสวิสเยอรมัน

เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเห็น มหาวิหารเซนต์นิโคลัส (Cathedrale St.Nicholas) ตั้งตระหง่านสูงใหญ่อยู่ แดดเริ่มจะมากันแล้ว ดูสว่างขึ้นมาหน่อย

มหาวิหารแห่งนี้ ถูกสร้างและออกแบบสไตล์โกธิค มีหอคอยสูงให้ขึ้นไปชมเมืองกันได้ โดยต้องปีนบันไดกว่า 368 ขั้น เลยต้องขอบายก่อน (เสียค่าขึ้นหอคอย 3.5 CF) เดี๋ยวจะพาไปชมวิวที่ไม่ต้องปีนโหดกัน ตามมาจ้ะ

ประตูด้านหน้านั้น แนะนำให้เข้าไปชมกันใกล้ๆ กันหน่อย เป็นรูปของการตัดสินครั้งสุดท้าย (Last Judgement)
จากมหาวิหาร เดินทะลุซอยเล็กไปยังถนนด้านหลัง ถนนสายนี้ จะพาเราไปยังแม่น้ำซารีน
เพื่อชมวิวสวยๆ กัน

ตรงไปจนสุดให้เดินเลี้ยวขวาลงทางลาดเล็กๆ ไป

จะเจอน้ำพุโบราณอีกแห่ง

แล้วก็ลานพักผ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ ให้เลี้ยวซ้ายไป

จะเจอกับ สะพานไม้ Pont de Berne

สะพานไม้แก่าเก่แห่งนี้ สร้างในสมัยกลางอีกเช่นกันคือราวศตวรรษที่ 11-13 เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างสวิสฝรั่งเศสและสวิสเยอรมันไว้ด้วยกัน เวลาเดินก็ระวังกันหน่อยเพราะจะมีรถเมล์วิ่งผ่านกันอยู่บ่อยๆ

จากสะพานไม้มองไปจะเห็น สะพาน Pont de Zahringen
สะพานโค้งรถข้ามที่เราจะใช้เป็นจุดชมวิวปราสาทสวยๆ ของเมืองนี้

เดินตามแผนที่เรื่อยๆ จะเจอกับบันไดเพื่อขึ้นไปบนสะพานสูง ออกแรงกันนิด
เดี๋ยวได้ชมวิวงามๆ กันแล้ว

ขึ้นมาถึงแล้วจ้า เล่นเอาเหนื่อยกันทีเดียว

แต่ได้มาเห็นวิว ปราสาท Tour du Durrenbuhl ในมุมนี้ก็หายเหนือยเลย สมแล้วกับที่เมือง Fribourg ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองแห่งปราสาทเก่าของสวิตเซอร์แลนด์

ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่มีแดดแต่ก็ได้ชมวิวปราสาทในบรรยากาสฝนตกปรอยๆ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ อิอิ ใครวางแผนเที่ยวเมืองอื่นๆ แล้วพยากรณ์อากาศว่าจะเจอฝนซึ่งอาจจะถ่ายรูปออกมาไม่สวย ก็แนะนำมาเที่ยวเมือง Fribourg แทนก็ได้

สะพานไม้ Pont de Berne ที่เราเพิ่งผ่านกันมาหยกๆ

จากนั้นกลับหลังหันไปจะได้เห็น มหาวิหารเซนต์นิโคลัส (Cathedrale St.Nicholas)
ในอีกหนึ่งมุมสวยๆ

เสร็จสิ้นภารกิจกันแล้ว ก็เดินข้ามสะพานไปขึ้นรถเมล์ฝั่งตรงข้ามกลับไปยังสถานีรถไฟ Fribourg ตามเดิม โดยสายที่ผ่านมี สาย 2 และสาย 6

รถแมล์ที่นี่ ขึ้นไม่ยากจ้ะ มีจอมอนิเตอร์บอกตลอดว่าตอนนี้อยู่ไหน นั่งชมวิวกันไปประมาณ 10 นาทีแล้วก็ลงที่ป้าย Gare CFF (แปลว่าสถานีรถไฟสวิส)

ต่อทริปช่วงบ่าย เดินทางจากเมือง Fribourg ไป Lausanne มีรถมาตลอดทุก 15 นาที ใช้เวลาเดินทาง 44 นาทีก็มาถึงเมือง Lausanne

ระหว่างทางถ้าเห็น ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ก็เตรียมตัวลงกันได้แล้ว

มืองโลซาน (Lausanne) เมืองริมทะเลสาบเจนีวา (Geneva Lake) ติดกับชายแดนประเทศฝรั่งเศส ตัวเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย อาทิ มหาวิหารโลซาน (Lausanne Cathedral), ย่านเมืองเก่า (Old Town) ที่มีถนนช้อปปิ้งชื่อดังอย่าง Pl de la louve, ย่านริมทะเลสาบเจนีวาที่มีสวนดอกไม้สวยๆ รอบๆทะเลสาบ, ศาลไทยเฉลิมพระเกียรติและ Olympic Museum พิพิธภัณฑ์โอลิมปิค

สถานีรถไฟโลซาน

แผนที่เมือง Lausanne ด้านเหนือ

แผนที่เมือง Lausanne ด้านใต้

แผนการเที่ยวเมืองโลซานคือจะเที่ยวตามแผนที่ด้านใต้โดยนั่งรถไฟใต้ดินก่อนจากนั้นจะขึ้นรถเมล์ไปเที่ยวตามแผนที่ด้านเหนือ เริ่มต้นจากหน้า สถานีรถไฟ Lausanne Capitale Olympique
เมืองหลวงแห่งโอลิมปิค

เดินข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม ตรงหน้าร้าน Mc Donald ด้านขวา จะมีทางลงรถไฟใต้ดิน

สาย 2 ทิศทาง Ouchy ซึ่งเขต Ouchy นี้ เป็นเขตชุมชนเก่าของเมือง เป็นเขตที่ติดกับทะเลสาบเจนีวา

สถานีที่เริ่มต้นที่เราลงไปคือสถานี Lausanne-Gare นั่งไปลงสุดสายที่ Ouchy

รถไฟมาทุก 2 นาที การซื้อตั๋วไม่ต้องทำอะไร เพราะมี Swiss Pass ผ่านตลอดแล้ว สามารถเดินขึ้นรถไฟได้เลย บรรยากาศภายในรถไฟฟ้าเมืองนี้ สะอาดมาก เบาะเก้าอี้เค้าจะพับเอาไว้ไม่ให้เกะกะ
ถ้าจะนั่งต้องกดเบาะลงมาเอง

แค่ 10 นาทีก็มาถึงสถานี Ouchy

เดินตรงออกไปด้านนอกสู่บริเวณทะเลสาบเจนีวากันเลย ตรงลานกว้างหน้าทะเลสาบจะเป็นที่นั่งเล่นพักผ่อนของชาวเมือง

มีลานหมากรุกยักษ์ให้เล่นกันฟรีๆ ด้วย

ท่าเรือยอร์ชริมทะเลสาบเจนีวา
รีวิวเดินเที่ยวริมทะเลสาบเจนีวา

รีวิว Olympic Museum

จาก Olympic Museum เดินตรงไปจะเห็นศาลาทรงไทยอยู่ด้านซ้ายมือ บนเนินเตี้ยๆ

ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ แห่งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จมาเปิดศาลาไทยซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพอันยาวนานและยั่งยืนระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 17 มีนาคม 2552 ศาลาไทยแห่งนี้สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่ในหลวงทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ในปี พ.ศ.2549 ผู้ออกแบบคือ อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น สร้างจากไม้สักและไม้เนื้อแข็งทั้งหลัง ใช้ช่างก่อสร้างชาวไทยทั้งสิ้น 16 คน แล้วเสร็จเมื่อปี 2550

เดินมาเมื่อยๆ ก็มาแวะนั่งพักผ่อนกันที่ศาลาไทยแห่งนี้กันได้ ก่อนที่จะไปเที่ยวยังด้านเหนือของเมืองกัน

จากศาลาไทย เดินตามแผนที่จนถึงแยกนี้ ข้ามถนนไปขึ้นรถเมล์สาย 8 ไปลงในเมืองกัน

เดินขึ้นรถเมล์กันได้สบายๆ เหมือนเคย รถเมล์และรถรางในสวิส นั้น เค้าแทบจะไม่ตรวจตั๋วกันเลย อาศัยความซื่อสัตย์ของชาวเมืองกันอย่างเดียว ส่วนนักท่องเที่ยวอย่างเราก็ใช้ Swiss Pass ผ่านตลอด
ถ้าเค้าขอดู

นั่งกันไปประมาณ 10 นาที พอเห็นตึกโรงแรม Hotel Des Postes ก็ลงกันเลย
หรือดู ป้าย St.Francois ก็ได้

เริ่มต้นเที่ยวชมเมืองเก่าโลซานกัน จากซอยด้านหลัง โบสถ์ St.Francois

ถนน Rue de Bourg ถนนสายช้อปปิ้งของเมือง มีร้านค้าแบรนด์เนม ร้านนาฬิกา เสื้อผ้า ตั้งอยู่เพียบ ใครอยากแวะช้อปก็ได้


ตรงไปกันจนถึงแยกนี้ ให้เลี้ยวเดินขึ้นไปทางซ้าย

จะมาถึงที่แยกใหญ่ซึ่งจะมีสะพานข้ามไปยังมหาวิหารโลซาน ส่วนใครที่มาจากทางสถานี Ouchy ก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายเดิมมาลงที่ สถานี Place de la Riponne ตรงหัวมุมนี้ได้เหมือนกัน

รีวิวมหาวิหารโลซาน (Cathedral de Lausanne)

หลังจากชมความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารโลซานกันไปแล้ว ให้เดินข้ามมาฝั่งตรงข้าม
เลี้ยวขวาลงเนินเข้าถนน Rue Mercerie

เดินลงเนินไปเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาทีจะทะลุมายังลานน้ำพุยอดนิยมของเมือง Rue de la Palud
ตรงถนน Rue de la Love

ลานน้ำพุแห่งนี้ เป็นที่พักผ่อนของชาวเมืองอีกที่นึง มีร้านค้า ร้านอาหารให้แวะซื้อหา รับประทานกัน
รีวิวลานน้ำพุ Rue de la Palud

ชมระบำตุ๊กตากันที่ลานน้ำพุเสร็จแล้ว ได้เวลากลับกัน เดินตามแผนที่ขึ้นไปตามถนน

จากนั้นก็นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายเดิมจากสถานี Riponne M Bejart ไปลงที่ Lausanne Gare (ลงทางด้านขวา ทิศทาง Ouchy)  เพื่อเดินทางกลับไปยังกรุงเบิร์นกัน