Day 6 Fribourg - Lausanne
วันที่ 6 ของทริป และวันที่ 4 ของการใช้ Swiss Pass ยังคงตั้งหลักอยู่ที่ Bern แต่จะออกเดินทางไปเที่ยวยังตะวันตกของสวิสที่เมือง Fribourg ในช่วงเช้าและ Lausanne ในช่วงบ่าย
จากเมืองหลวง Bern ไปยังเมือง Fribourg ใช้เวลาเพียง 21 นาทีเท่านั้น |
แผนที่เดินชมเมือง Fribourg
|
หันหน้าออกจากสถานีแล้วเดินไปตามทางเรื่อยๆ |
จะเจอตึกขวามือ เดินเข้าไปด้านล่างจะเป็น Tourist Information ใครอยากมาถามข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่ก็ได้ |
จากนั้นมาเริ่มต้นเดินเที่ยวเมืองกันต่อ เดินข้ามถนนไปยังถนนหน้าโบสถ์ตามคนกางร่มสีฟ้าไปกันเลย |
น้ำพุของเมืองนี้จะดูเก่าแกกว่าทีเบิร์นหน่อย แล้วก็ไม่มีสีสันสดใส อารมณ์แบบปูนเปลือย |
บรรยากาศเมืองเก่าตั้งแต่สมัยกลางยังมีให้เห็นได้ที่นี่ เมือง Fribourg นี้ เป็นเมืองกึ่งกลางที่คั่นด้วยแม่น้ำซารีน โดย 2 ฝั่งแม่น้ำนี้จะพูดกันคนละภาษา คือ สวิสฝรั่งเศสและสวิสเยอรมัน |
เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเห็น มหาวิหารเซนต์นิโคลัส (Cathedrale St.Nicholas) ตั้งตระหง่านสูงใหญ่อยู่ แดดเริ่มจะมากันแล้ว ดูสว่างขึ้นมาหน่อย |
มหาวิหารแห่งนี้ ถูกสร้างและออกแบบสไตล์โกธิค มีหอคอยสูงให้ขึ้นไปชมเมืองกันได้ โดยต้องปีนบันไดกว่า 368 ขั้น เลยต้องขอบายก่อน (เสียค่าขึ้นหอคอย 3.5 CF) เดี๋ยวจะพาไปชมวิวที่ไม่ต้องปีนโหดกัน ตามมาจ้ะ |
ประตูด้านหน้านั้น แนะนำให้เข้าไปชมกันใกล้ๆ กันหน่อย เป็นรูปของการตัดสินครั้งสุดท้าย (Last Judgement) |
จากมหาวิหาร เดินทะลุซอยเล็กไปยังถนนด้านหลัง ถนนสายนี้ จะพาเราไปยังแม่น้ำซารีน เพื่อชมวิวสวยๆ กัน |
ตรงไปจนสุดให้เดินเลี้ยวขวาลงทางลาดเล็กๆ ไป |
จะเจอน้ำพุโบราณอีกแห่ง |
แล้วก็ลานพักผ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ ให้เลี้ยวซ้ายไป |
จะเจอกับ สะพานไม้ Pont de Berne |
สะพานไม้แก่าเก่แห่งนี้ สร้างในสมัยกลางอีกเช่นกันคือราวศตวรรษที่ 11-13 เป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างสวิสฝรั่งเศสและสวิสเยอรมันไว้ด้วยกัน เวลาเดินก็ระวังกันหน่อยเพราะจะมีรถเมล์วิ่งผ่านกันอยู่บ่อยๆ |
จากสะพานไม้มองไปจะเห็น สะพาน Pont de Zahringen สะพานโค้งรถข้ามที่เราจะใช้เป็นจุดชมวิวปราสาทสวยๆ ของเมืองนี้ |
เดินตามแผนที่เรื่อยๆ จะเจอกับบันไดเพื่อขึ้นไปบนสะพานสูง ออกแรงกันนิด เดี๋ยวได้ชมวิวงามๆ กันแล้ว |
ขึ้นมาถึงแล้วจ้า เล่นเอาเหนื่อยกันทีเดียว |
แต่ได้มาเห็นวิว ปราสาท Tour du Durrenbuhl ในมุมนี้ก็หายเหนือยเลย สมแล้วกับที่เมือง Fribourg ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองแห่งปราสาทเก่าของสวิตเซอร์แลนด์ |
สะพานไม้ Pont de Berne ที่เราเพิ่งผ่านกันมาหยกๆ |
จากนั้นกลับหลังหันไปจะได้เห็น มหาวิหารเซนต์นิโคลัส (Cathedrale St.Nicholas) ในอีกหนึ่งมุมสวยๆ |
เสร็จสิ้นภารกิจกันแล้ว ก็เดินข้ามสะพานไปขึ้นรถเมล์ฝั่งตรงข้ามกลับไปยังสถานีรถไฟ Fribourg ตามเดิม โดยสายที่ผ่านมี สาย 2 และสาย 6 |
รถแมล์ที่นี่ ขึ้นไม่ยากจ้ะ มีจอมอนิเตอร์บอกตลอดว่าตอนนี้อยู่ไหน นั่งชมวิวกันไปประมาณ 10 นาทีแล้วก็ลงที่ป้าย Gare CFF (แปลว่าสถานีรถไฟสวิส) |
ต่อทริปช่วงบ่าย เดินทางจากเมือง Fribourg ไป Lausanne มีรถมาตลอดทุก 15 นาที ใช้เวลาเดินทาง 44 นาทีก็มาถึงเมือง Lausanne |
ระหว่างทางถ้าเห็น ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva) ก็เตรียมตัวลงกันได้แล้ว |
สถานีรถไฟโลซาน |
แผนที่เมือง Lausanne ด้านเหนือ |
แผนที่เมือง Lausanne ด้านใต้ |
แผนการเที่ยวเมืองโลซานคือจะเที่ยวตามแผนที่ด้านใต้โดยนั่งรถไฟใต้ดินก่อนจากนั้นจะขึ้นรถเมล์ไปเที่ยวตามแผนที่ด้านเหนือ เริ่มต้นจากหน้า สถานีรถไฟ Lausanne Capitale Olympique เมืองหลวงแห่งโอลิมปิค |
เดินข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม ตรงหน้าร้าน Mc Donald ด้านขวา จะมีทางลงรถไฟใต้ดิน |
สาย 2 ทิศทาง Ouchy ซึ่งเขต Ouchy นี้ เป็นเขตชุมชนเก่าของเมือง เป็นเขตที่ติดกับทะเลสาบเจนีวา |
สถานีที่เริ่มต้นที่เราลงไปคือสถานี Lausanne-Gare นั่งไปลงสุดสายที่ Ouchy |
รถไฟมาทุก 2 นาที การซื้อตั๋วไม่ต้องทำอะไร เพราะมี Swiss Pass ผ่านตลอดแล้ว สามารถเดินขึ้นรถไฟได้เลย บรรยากาศภายในรถไฟฟ้าเมืองนี้ สะอาดมาก เบาะเก้าอี้เค้าจะพับเอาไว้ไม่ให้เกะกะ ถ้าจะนั่งต้องกดเบาะลงมาเอง |
แค่ 10 นาทีก็มาถึงสถานี Ouchy |
เดินตรงออกไปด้านนอกสู่บริเวณทะเลสาบเจนีวากันเลย ตรงลานกว้างหน้าทะเลสาบจะเป็นที่นั่งเล่นพักผ่อนของชาวเมือง |
มีลานหมากรุกยักษ์ให้เล่นกันฟรีๆ ด้วย |
ท่าเรือยอร์ชริมทะเลสาบเจนีวา รีวิวเดินเที่ยวริมทะเลสาบเจนีวา |
รีวิว Olympic Museum |
จาก Olympic Museum เดินตรงไปจะเห็นศาลาทรงไทยอยู่ด้านซ้ายมือ บนเนินเตี้ยๆ |
เดินมาเมื่อยๆ ก็มาแวะนั่งพักผ่อนกันที่ศาลาไทยแห่งนี้กันได้ ก่อนที่จะไปเที่ยวยังด้านเหนือของเมืองกัน |
จากศาลาไทย เดินตามแผนที่จนถึงแยกนี้ ข้ามถนนไปขึ้นรถเมล์สาย 8 ไปลงในเมืองกัน |
เดินขึ้นรถเมล์กันได้สบายๆ เหมือนเคย รถเมล์และรถรางในสวิส นั้น เค้าแทบจะไม่ตรวจตั๋วกันเลย อาศัยความซื่อสัตย์ของชาวเมืองกันอย่างเดียว ส่วนนักท่องเที่ยวอย่างเราก็ใช้ Swiss Pass ผ่านตลอด ถ้าเค้าขอดู |
นั่งกันไปประมาณ 10 นาที พอเห็นตึกโรงแรม Hotel Des Postes ก็ลงกันเลย หรือดู ป้าย St.Francois ก็ได้ |
เริ่มต้นเที่ยวชมเมืองเก่าโลซานกัน จากซอยด้านหลัง โบสถ์ St.Francois |
ถนน Rue de Bourg ถนนสายช้อปปิ้งของเมือง มีร้านค้าแบรนด์เนม ร้านนาฬิกา เสื้อผ้า ตั้งอยู่เพียบ ใครอยากแวะช้อปก็ได้ |
ตรงไปกันจนถึงแยกนี้ ให้เลี้ยวเดินขึ้นไปทางซ้าย |
จะมาถึงที่แยกใหญ่ซึ่งจะมีสะพานข้ามไปยังมหาวิหารโลซาน ส่วนใครที่มาจากทางสถานี Ouchy ก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายเดิมมาลงที่ สถานี Place de la Riponne ตรงหัวมุมนี้ได้เหมือนกัน |
รีวิวมหาวิหารโลซาน (Cathedral de Lausanne) |
หลังจากชมความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารโลซานกันไปแล้ว ให้เดินข้ามมาฝั่งตรงข้าม เลี้ยวขวาลงเนินเข้าถนน Rue Mercerie |
เดินลงเนินไปเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาทีจะทะลุมายังลานน้ำพุยอดนิยมของเมือง Rue de la Palud ตรงถนน Rue de la Love |
ลานน้ำพุแห่งนี้ เป็นที่พักผ่อนของชาวเมืองอีกที่นึง มีร้านค้า ร้านอาหารให้แวะซื้อหา รับประทานกัน รีวิวลานน้ำพุ Rue de la Palud |
ชมระบำตุ๊กตากันที่ลานน้ำพุเสร็จแล้ว ได้เวลากลับกัน เดินตามแผนที่ขึ้นไปตามถนน |
จากนั้นก็นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายเดิมจากสถานี Riponne M Bejart ไปลงที่ Lausanne Gare (ลงทางด้านขวา ทิศทาง Ouchy) เพื่อเดินทางกลับไปยังกรุงเบิร์นกัน |