Bookmark and Share

วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm)


ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm)

หลังจากที่ลงที่ท่าเรือเมือง Vitznau กันแล้ว ให้เดินไปขึ้นรถไฟไต่เขาริกิ สถานีอยู่ตรงท่าเรือเลย

เวลารถออกทุกชม. พอลงจากเรือปุ๊บให้เดินไปขึ้นรถกันเลย เพราะเค้าจะมารอรับผู้โดยสารที่ลงมาจากเรือพอดี (ตรงกับเวลาออกของรถไฟ)

ขบวนรถไฟสีแดงสด ของบริษัท Rigi Bahn มีหลายโบกี้ด้วยกัน
แนะนำให้เลือกนั่งริมหน้าต่างเพื่อจะได้ชมวิวทิวทัศน์ข้างทางได้

ผู้โดยสารเต็มขบวน แล้วก็เริ่มออกเดินทางกันได้

วิวช่วงต้น จะสามารถมองเห็นทะเลสาบที่เราเพิ่งล่องเรือกันมาแบบเอียงๆ

ชมวิวเรื่อยๆ พอขึ้นมาสูง ก็จะเริ่มโล่ง ตามยอดเขาต่างๆ ก็จะมีหิมะปกคลุมบ้าง

ส่วนถ้าใครมาเที่ยวช่วงหน้าร้อนก็จะได้เห็นทุ่งดอกเรปสีเหลือง สวยงามไปอีกแบบนึง

ใช้เวลาเดินทางกันประมาณ 1 ชม.เศษๆ ก็เห็นยอดเขาริกิมาแต่ไกล (ตรงที่มีเสาอากาศตั้งอยู่)

แล้วก็มาถึงสถานีปลายทาง Rigi Kulm จะเห็นได้ว่ามีรถไฟอีกขบวนสีฟ้าจอดอยู่ ขบวนนี้สำหรับคนที่จะลงทางเมือง Goldau แล้วต่อรถไฟเข้า Luzern อีกทีนึง ส่วนใครที่จะนั่งเรือกลับทางเดิม ขากลับก็รอมาขึ้นขบวนแดงเหมือนเดิม

ถ่ายรูปกับป้ายข้างทางรถไฟนิดนึง ตรงป้ายนี้ มีความสูงอยู่ที่ 1752 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล

จากนั้นก็เริ่มเดินขึ้นเนินไปยังยอดเขาริกิกัน ออกแรงกันหน่อยนึง ฮึบๆ

พอถึงทางแยกก็มีป้ายบอกทางน่ารักๆ ติดอยู่ เลี้ยวซ้ายสำหรับวัยรุ่น ทางชันนิดแต่ระยะใกล้กว่า ส่วนเลี้ยวขวา สำหรับมนุษย์ลุงและป้า สว. ทั้งหลาย ทางชันน้อยแต่เดินไกลกว่า เลือกกันตามสะดวกจ้า

วัยรุ่นอย่างเราเลี้ยวซ้ายโลด (จริงๆ แล้วขี้เกียจเดินเยอะมากกว่า 555)

ระหว่างทางก็มีแอ่งกองหิมะเล็กๆ ให้เด็กๆ มาปั้นเล่น ปาเล่นกันหนุกหนาน

แล้วก็มาถึงด้านบน มองลงไปเห็นทะเลสาบน้อยใหญ่ล้อมรอบ สวยงามมาก

มองลงอีกด้านแบบซูมๆ ก็เห็นวิวสถานีรถไฟตัดกับเทือกเขาเตี้ยๆ ด้านล่าง

สำเร็จแล้วกับภารกิจพิชิตยอดเขาริกิ ความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,797 เมตร ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm) นี้ มีที่มาจากคำว่า Mons Regina แปลได้ว่า ราชินิแห่งภูเขา เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา

ป้ายบอกระยะเก๋ๆ จากยอดเขาริกิ ไปยังเมืองต่างๆ ทั่วโลก ไปกรุงเทพฯ 9,050 กิโลเมตร โอ้วววว..

ดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์สวยๆ กันแล้ว อำลากันด้วยภาพนี้กันเลยจ้า
Bye Bye Rigi Kulm แล้วจะมาใหม่